บทที่1
เป้าหมายโครงการ
โรงเรียนนานาชาติ “เปรม ติณสูลานนท์” ซึ่งมี ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล
ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการปกครองและผู้ก่อตั้งศูนย์การศึกษาเปรม ติณสูลานนท์
จึงได้เซ็นสัญญาร่วมกับ นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท Prime
Nature Villa เพื่อร่วมกันก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติ เปรม ติณสูลานนท์
สาขา 2 ที่กรุงเทพฯ หลังจากประสบผลสำเร็จจากสาขาแรกที่จังหวัดเชียงใหม่
โดยโรงเรียนแห่งนี้จะรองรับบุตรหลานจากคนในหมู่บ้าน Prime Villa เป็นหลัก
และมีการรับนักเรียนต่างชาติเข้ามาอยู่เป็นนักเรียนประจำ
1.1เป้าหมายโครงการทางด้านหน้าที่ใช้สอย(FUNCTION
GOAL)
1.1.1กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้โครงการ(User
Target Group)
1.กลุ่มผู้ใช้โครงการ
ก.กลุ่มผู้ใช้โครงการหลัก(Main
User)
กลุ่มผู้ใช้โครงการหลัก ได้แก่นักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 440
คน
ข.กลุ่มผู้ใช้โครงการรอง(Sub
User)
กลุ่มผู้ใช้โครงการรอง ได้แก่ ผู้ปกครองหรือผู้มาติดต่อโรงเรียน
ตามข้อกำหนดของ
กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้นักเรียน 1 คนต้องมีผู้ปกครอง
1 คนดังนั้นกลุ่มผู้ใช้โครงการรองจะมีจำนวนเท่ากับจำนวนนักเรียนคือ
440 คน
ค.กลุ่มผู้บริหารและพนักงานของโครงการ
(Administrators and Staffs)
กลุ่มผู้บริหารและพนักงานของโครงการ
ได้แก่ กลุ่มคณะผู้บริหารโครงการ ครู พนักงานฝ่าย
โภชนาการ
พนักงานฝ่ายสถานที่ พนักงานฝ่ายซ่อมบำรุง พนักงานฝ่ายรักษาความสะอาด พนักงานฝ่ายยานพาหนะ
พนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ
1.1.2เป้าหมายองค์ประกอบโครงการและพื้นที่ใช้สอยโครงการ
(Functional Component and Area Requirement)
1.องค์ประกอบโครงการ (Functional
Component)
โครงการโรงเรียนนานาชาติเปรม ติณสูลานนท์ เป็นโครงการประเภทสถาบันการศึกษา
มีองค์ประกอบของโครงการต่างๆ ดังนี้
1.ส่วนบริหารโครงการ(Administration Zone)
2.ส่วนการศึกษา(Education Zone)
3.ส่วนสนับสนุนโครงการ(Supporting Zone)
4.ส่วนสาธารณะ(Public Zone)
5.ส่วนบริการอาคาร(Service Zone)
6.ส่วนจอดรถ(Parking Zone)
1.ส่วนบริหารโครงการ(Administration Zone)
ส่วนบริหาร ทำหน้าที่บริหารโรงเรียนให้ดำเนินงานได้ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
ทั้งในแง่ของทางด้านการศึกษา การจัดระบบหลักสูตรการเรียนการสอน การประเมินผลการศึกษา
ในส่วนของการติดต่อประสานงานทั้งภายนอกและภายในสถาบัน การบริหารทางด้านเศรษฐศาสตร์
และการให้บริการแก่ผู้มาติดต่อ ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนย่อยดังนี้
1.ส่วนบริหาร เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ดำเนินงานทางด้านบริหารโรงเรียประกอบด้วย
-ผู้อำนวยการ
-รองผู้อำนวยการ
-ครูใหญ่
2.ส่วนที่สนับสนุนฝ่ายบริหาร คือส่วนที่ทำหน้าที่ดำเนินงานตามส่วนบริหารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่โรงเรียนวางเอาไว้ซึ่งประกอบด้วยส่วนย่อยดังนี้
-ฝ่ายบุคคล
-ฝ่ายบัญชี
-ฝ่ายต้อนรับ
-ฝ่ายการเงิน
2.ส่วนการศึกษา(Education Zone)
ส่วนการศึกษาของโรงเรียนทางเลือกเน้นไปที่การจัดรูปแบบการเรียนการสอนที่นอกเหนือกจากการนั่งเรียนแบบปกติ
อันประกอบไปด้วย
-ห้องเรียนปกติ
-ห้องเรียนศิลปะ
-ห้องเรียนวิทยาศาสตร์
-ห้องเรียนดนตรี
-ห้องเรียนงานปฎิบัติการต่างๆ
-ห้องสมุด
-สนามเด็กเล่น
-สนามกีฬา
3.ส่วนสนับสนุน(Supporting Zone)
ส่วนบริการการศึกษาของโรงเรียน คือส่วนบริการนักเรียนในด้านต่างๆ
อันเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีความสัมพันธ์เนื่องกับส่วนการศึกษา อันประกอบไปด้วย
-ห้องพักครู
-โรงอาหาร
-ห้องพยาบาล
-Gallery
-Auditorium
-ห้องน้ำ
-หอพักนักเรียนและครู
4.ส่วนสาธารณะ(Public Zone)
ส่วนสาธารณะของโครงการ คือพื้นที่รองรับผู้ปกครองสำหรับรอบุตรหลาน
หรือรองรับบุคคลภายนอกมาติดต่อธุระกับโรงเรียน ดังนั้นการจัดวางและออกแบบพื้นที่นี้ควรจะออกแบบให้มีประสิทธิภาพในแง่ของการแบ่งแยกส่วน public และ
private อันประกอบไปด้วย
-โถง
-สวนสาธารณะ
-ที่นั่งพักคอย
-ร้านค้า
-ร้านกาแฟ
-ห้องน้ำ
5.ส่วนบริการอาคาร(Service Zone)
ส่วนบริการอาคาร คือส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการในแง่ของการบริการกลุ่มผู้ใช้หลัก
การบำรุงรักษาอาคาร การควบคุมงานระบบภายในโครงการ รวมถึงการดูแลความเรียบร้อยต่างๆภายในโครงการ
ซึ่งประกอบไปด้วย
1.ส่วนบริการอำนวยความสะดวกสำหรับนักเรียนโดยตรง เช่น ฝ่ายโภชนาการ ฝ่ายรักษาความสะอาด
ฝ่ายยานพาหนะ ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฝ่ายสถานที่ เป็นต้น
2.ส่วนพื้นที่ปฏิบัติการ ของงานระบบ ความปลอดภัย บำรุงรักษาสถานที่ อาทิเช่น
ส่วนบำบัดน้ำเสีย ห้องควบคุมไฟฟ้า ห้องพักขยะ ป้อมรปภ. เป็นต้น
3.ส่วนพื้นที่ที่สำหรับพนักงานฝ่ายบริการอาคาร อาทิเช่น โถงส่วนบริการ ห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
พื้นที่พักผ่อน เป็นต้น
ดังนั้นพื้นที่ของส่วนบริการอาคาร(Service Zone) นั้นควรมีพื้นที่ที่เป็นสัดส่วนแยกออกจากส่วนต่างๆของโครงการอย่างชัดเจน
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนที่ดำเนินกิจกรรมภายในส่วนต่างๆของโครงการมาปะปนกับส่วนบริการอาคาร
แต่จะต้องมีความสัมพันธ์เชื่อมต่อกันแง่ของประโยชน์ใช้สอย โดยส่วนบริการจะต้องสามารถให้บริการแก่ส่วนต่างๆของโครงการได้เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว
ถึงจะทำให้การออกแบบพื้นที่ส่วนการให้บริการนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
6.ส่วนจอดรถ(Parking Zone)
ส่วนจอดรถ คือส่วนที่ใช้รองรับยานพาหนะของผู้ที่เข้ามาดำเนินกิจกรรมภายในโครงการในรูปแบบต่างๆ
โดยยานพาหนะอาจจะเป็นไปในรูปแบบของจักรยาน จักรยานยนต์ รถยนต์ รถตู้ รถรับส่งนักเรียน
ดังนั้นเพื่อความชัดเจนในการออกแบบ คำนวณพื้นที่ และคำนวณราคาค่าก่อสร้าง จึงแยกที่จอดรถออกจากองค์ประกอบอื่นๆ
บางโครงการอาจแยกที่จอดรถเป็นดังนี้
-ที่จอดรถสำหรับผู้ปกครอง
-ที่จอดรถรับส่งนักเรียน
-ที่จอดรถบริการ
-ที่จอดรถบุคลากร
โดยการออกแบบพื้นที่ที่จอดรถนี้จะมีความสัมพันธ์กับ ประเภทของพื้นที่ใช้สอยภายในโครงการการเข้าถึงโครงการ
และความจำกัดของเนื้อที่โครงการ
2.พื้นที่โครงการ(Area
Requirment)
มีพื้นที่ใช้สอยในโครงการประมาณ 29,600 ตร.ม.
1.2เป้าหมายโครงการทางด้านรูปแบบ(FORM GOALS)
การกำหนดเป้าหมายทางด้านรูปแบบ
คือ การกำหนดรูปลักษณ์ของโครงการที่มีผลต่อบุคคลที่มาดำเนินกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกโครงการ
โดยการกำหนดเป้าหมายโครงการทางด้านรูปแบบ จะประกอบไปด้วยปัจจัยหลัก
3 ปัจจัย ดังนี้
1.ที่ตั้งโครงการ(Site
Location)
2.การกำหนดขนาดที่ตั้งโครงการ(Size
of the proposed site)
3.เป้าหมายจินตภาพโครงการ(Image
goal)
1.2.1 ที่ตั้งโครงการ(Site Location)
ที่ตั้งโครงการ
อยู่ในเขตจังหวัด สมุทรปราการ
อยู่ในผังสีสีแดง เป็นเขตพาณิชยกรรม
จำแนกประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน
สถานที่สำคัญในบริเวณนั้น
เส้นทางการคมนาคม
การเข้าถึงที่ตั้งโครงการ
ที่ตั้งโครงการ
มุมมองจากทางด้านหลังโครงการ
วิเคราะห์ที่ตั้งโครงการ
1.2.2 การกำหนดขนาดที่ตั้งโครงการ(Size
of the Proposed Site)
ที่ตั้งโครงการมีขนาดเนื้อที่ 65 ไร่
1.2.3.เป้าหมายจินตภาพโครงการ(Image
Goal)
เป้าหมายจินตภาพโครงการ หมายถึงรูปแบบหรือลักษณะของภาพรวม
และส่วนประกอบต่างๆของอาคารที่ต้องการหรือกำหนดสำหรับโครงการ โดยโครงการหลักเกณฑ์ของการสื่อจินตภาพในงาน
สถาปัตยกรรมของโครงการ ดังนี้
1.กิจกรรมและหน้าที่ใช้สอย(Activity
and Function)
โครงการนี้จะเป็นลักาณะของกลุ่มอาคารย่อยๆ
ไม่เป็นอาคารขนาดใหญ่เพื่อสอดตล้องกันบริบท พื้นที่ว่างภายในจะสามารถเชื่อมกับธรรมชาติภายนอกอาคารได้เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
รูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นแบบทันสมัยเพื่อสื่อถึงเป็นโรงเรียนนานาชาติ
รูปทรงอาคารจะสอดคล้องกับฟังก์ชั่นข้างใน
เพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายต่อลำดับการเข้าถึง วัสดุอาคารจะเลียนแบบธรรมชาติ
เพื่อให้ดูอบอุ่ม แต่มีการใช้สีสันเข้ามาร่วมด้วยเพื่อดึงดูดเด็กนักเรียน
ที่มา
: Volksschule
Wallenmahd
2.ผู้ใช้โครงการ (User)
กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้โครงการหลักของโครงการคือเด็กอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
6 จะมีช่วงอายุระหว่าง 3 –18 ปีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีผลต่อการรับรู้งานสถาปัตยกรรมอย่างยิ่ง
ดังนั้นรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมจะต้องสื่อถึงความเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน สีสันสดใส
สนุกสนาน รู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย
3.ที่ตั้งและสภาพแวดล้อมของโครงการ (Site and Environment)
สภาพแวดล้อมบริเวณรอบโครงการควรจะมีความเป็นธรรมชาติ
ไม่แออัด
1.3เป้าหมายโครงการทางด้านเศรษฐศาสตร์(ECONOMY GOALS)
1.3.1เงินทุนโครงการ ( Source of Investment )3
-โครงการของภาคเอกชน
อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ
-แหล่งเงินกู้ต่างๆตามสัดส่วนร้อยละ
60 โดยอัตราเฉลี่ย ดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 8%
- ธนาคารพาณิชย์ให้บริการเกี่ยวกับเงินกู้ทั้งระยะสั้นและยาวอัตราดอกเบี้ยประมาณ
8%
1.3.2งบประมาณเบื้องต้น ( Initial Budget )
-ราคาค่าก่อสร้าง
( Building cost ) ตารางเมตรละ 20,000 บาท
พื้นที่ใช้สอยอาคารโดยประมาณ
29,600 ตารางเมตร
ราคาค่าก่อสร้าง
20,000
x 29,600 = 592,000,000 บาท
-ราคาปรับปรุงที่ดิน
450,000 บาท /ไร่
พื้นที่ก่อสร้างโดยประมาณ
18.5 ไร่
ราคาปรับปรุงที่ดิน
450,000 x 18.5 = 8,325,000 บาท
ค่าดำเนินการก่อสร้าง 20% 592,000,000
x 20% = 118,400,000 บาท
รวมงบประมาณการก่อสร้างเบื้องต้น
592,000,000+8,325,000+118,400,000=718,725,000
บาท
1.3.3 ผลตอบแทนทางการเงิน(Financial Prospect)
รายได้หลักของโครงการได้มาจากค่าเทอม
1.3.4ผลตอบแทนสังคม(Social Benefits)
1.ช่วยลดปัญหาอัตราการว่างงานเนื่องจากมีสถาบันการศึกษาที่เพิ่มศักยภาพของคุณภาพประชากรในการประกอบอาชีพ
2.แก้ไขปัญหาทางการศึกษาไปสู่การเรียนรู้ที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กให้เติบสู่วัยผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์
1.4 เป้าหมายโครงการทางด้านเทคโนโลยี (TECHNOLOGY GOAL)
1.4.1เป้าหมายเทคโนโลยีอาคาร
1.Air-Condition การใช้ระบบปรับอากาศทั้งในระบบ
sprit type และระบบ water chiller type ตามลักษณะการใช้งานของแต่ละพื้นที่อาคารที่มีความแตกต่างกันออกไป
เพื่อการประหยัดพลังงาน
2.Structure การใช้ระบบโครงสร้างอาคารแบบ
Post Tension และเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก
3.Electric system เป็นการใช้ระบบไฟฟ้ากำลัง(Power
Supply System) และระบบไฟฟ้าสำรองฉุกเฉิน(Emergency System)
4.Emergency Control เป็นระบบควบคุมและสัญญาณเตือนภัย
จากกรณีอัคคีภัย อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน(Heat Detector) อุปกรณ์ตรวจจับควัน(Smoke
Detector) และอุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟ(Flame Detector)
5.Lighting System ระบบไฟฟ้าส่องสว่างในส่วนห้องเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น