บทที่2

บทที่ 2
ข้อมูลพื้นฐานโครงการ

โรงเรียนเรียนนานาชาติ เปรม ติณสูลานนท์ เป็นโรงเรียนหลักสูตรนานาชาติ โดยได้รับการอนุมัติให้ใช้หลักสูตร International Baccalaureate Diploma สำหรับเกรด 11 และ 12 และยังได้รับการยอมรับให้เป็นโรงเรียนระดับมาตรฐาน IB World School โดย International Baccalaureate Organization (IBO) ในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
โดยจะทำการศึกษาจากกรณีศึกษาที่เป็นโรงเรียนนานาชาติเหมือนกันทั้งในและต่างประเทศ เพื่อทำการศึกษาทางด้านข้อมูลพื้นฐาน โดยการศึกษาข้อมูลพื้นฐานโครงการจะมีรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ซึ่งทำการรวบรวมมาจาก การสัมภาษณ์และสอบถาม การศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้โครงการ ข้อมูลทางด้านสภาพแวดล้อม ข้อมูลทางด้านสถิติ กรณีศึกษาและเอกสารทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ แล้วจึงนำข้อมูลพื้นฐานเหล่านั้นมาวิเคราะห์เป็นข้อมูลพื้นฐานทางด้านต่างๆของโครงการ ซึ่งประกอบดังนี้
2.1ข้อมูลพื้นฐานด้านหน้าที่ใช้สอย (FUNCTION FACTS)
2.2ข้อมูลพื้นฐานด้านรูปแบบ (FORM FACTS)
2.3ข้อมูลพื้นฐานทางด้านเศรษฐศาสตร์ (ECONOMIC FACTS)
2.4ข้อมูลพื้นฐานด้านเทคโนโลยี (TECHNOLOGY FACTS)
2.1ข้อมูลพื้นฐานด้านหน้าที่ใช้สอย (FUNCTION FACTS)

2.1ข้อมูลพื้นฐานด้านหน้าที่ใช้สอย
จัดเป็นข้อมูลหลักของโครงการที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของกลุ่มเป้าหมายระดับต่างๆของโครงการกับตัวโครงการ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ และตารางเวลาที่เกิดขึ้นภายในโครงการ โดยข้อมูลพื้นฐานด้านหน้าที่ใช้สอย ประกอบไปด้วย
2.1.1 ผู้ใช้โครงการ (Users)
2.1.2 กิจกรรม (Activity)
2.1.3 ตารางเวลา (Time Schedule)

2.1.1 ผู้ใช้โครงการ(Users)
1)    โครงสร้างองค์กร(Authority Structure)
รูปภาพที่2.1 แสดงโครงสร้างองค์กร

2)    ปริมาณผู้ใช้โครงการ(Number of User)
แยกประเภทกลุ่มผู้ใช้โครงการได้ 3 ประเภท ดังนี้
·    กลุ่มผู้ใช้หลัก
·    กลุ่มผู้ใช้รอง
·    กลุ่มผู้บริหาร และพนักงาน

·    กลุ่มผู้ใช้โครงการหลัก คือนักเรียนอนุบาลถึงมัธยมศึกษา จำนวน 440 คน
·    กลุ่มผู้ใช้โครงการรอง คือผู้ปกครองหรือผู้มาติดต่อ ข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้นักเรียน 1 คนต้องมีผู้ปกครอง 1 คน ดังนั้นกลุ่มผู้ใช้โครงการรองจะมี 440 คน
·กลุ่มผู้บริหาร และพนักงาน คือกลุ่มบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับโครงการในแง่ของการบริหารโครงการ และบริการ ซึ่งมีทั้งหมด 118 คน

ลักษณะผู้ใช้โครงการ(USER CHARACTERISTICS)
แบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มคือ
1)        กลุ่มนักเรียน
2)        กลุ่มวิชาการ
3)        กลุ่มผู้บริหาร
4)        กลุ่มบริการ
โดยผู้ใช้โครงการแต่ละกลุ่มก็จะมีลักษณะเฉพาะตัวในส่วนของกายภาพ สังคม ความรู้สึกประสบการณ์ โดยสามารถแบ่งกลุ่มผู้ใช้โครงการทั้ง 4 กลุ่มสรุปออกมาตามลักษณะของผู้ใช้ได้เป็น 4 ด้านคือทางกายภาพ ทางจิตวิทยา และทางสังคม ได้ดังนี้

1)        ทางด้านกายภาพ(Physical)
ลักษณะผู้ใช้โครงการทางด้านกายภาพ คือ ลักษณะทางร่างกาย และอายุของกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการลักษณะทางกายภาพ จำแนกได้ดังนี้
1.1กลุ่มนักเรียน
·    ระดับอนุบาล1-มัธยมศึกษาปีที่6 ไม่จำกัดเพศ และเชื้อชาติ
·    อายุ 3-18 ปี
·    มีสุขภาพพลานามัยร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
·    มีการพัฒนาทางร่างกาย ภาษาและสังคม
1.2กลุ่มวิชาการ
·    ชาวต่างชาติ สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
·    มีอายุระหว่าง 25-60 ปี ไม่จำกัดเพศ
·    มีสุขภาพพลานามัยร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
·    วุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป
·    รักเด็ก
1.3กลุ่มบริหาร
·    สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
·    มีอายุระหว่าง 40-60 ปีไม่จำกัดเพศ
·    มีสุขภาพพลานามัยร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
·    วุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป
·    รักเด็ก
1.4กลุ่มบริการ
·    มีอายุระหว่าง 25-60 ปี ไม่จำกัดเพศ
·    มีสุขภาพพลานามัยร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
·    ไม่มีข้อบกพร่องทางกายภาพที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน
·    รักเด็ก
1.5กลุ่มผู้ปกครอง
·    ไม่จำกัดเพศ

2)        ทางด้านจิตวิทยา(Psychological)
ลักษณะผู้ใช้โครงการทางด้านจิตวิทยา คือ การรับรู้ทางด้านจิตวิทยาของแต่ละกลุ่มผู้ใช้โครงการที่ต่างกัน จำแนกได้ดังนี้
2.1กลุ่มนักเรียน
·    มีความสนุกสนาน ร่าเริง ชอบการเล่น
·    มีความสนใจในสิ่งต่างๆรอบตัว
2.2กลุ่มวิชาการ/กลุ่มบริหาร/กลุ่มบริการ
·    สามารถเก็บอารมณ์และความรู้สึกได้ดี
·    ต้องการความรู้สึกที่เรียบง่าย มั่นคง
2.3กลุ่มผู้ปกครอง
·    สามารถเก็บอารมณ์และความรู้สึกได้ดี

3)        ทางด้านสังคม(Social)
ลักษณะผู้ใช้โครงการทางด้านสังคม คือ ลักษณะสังคมที่แตกต่างกันจะทำให้ผู้ใช้มีพฤติกรรมการใช้สอยพื้นที่ต่างกัน มีผลต่อความชอบในเรื่องรสนิยมความชอบ การที่ลักษณะของสังคมแตกต่างอาจเนื่องมาจาก ระดับการศึกษา เชื้อชาติ ศาสนา อายุ และเพศ จำแนกได้ดังนี้
3.1กลุ่มนักเรียน
ลักษณะทางสังคมของกลุ่มเด็ก จะมีลักษณะสังคมที่ชอบเล่นสนุกสนานสดใสร่าเริง
3.2กลุ่มวิชาการ/กลุ่มบริหาร/กลุ่มพนักงาน
มีการปฎิสัมพันธ์กันระหว่างครูผู้ปกครองและพนักงาน
3.3กลุ่มผู้ปกครอง
มีการจับกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทัศนคติและปัญหา

2.1.2 กิจกรรม(Activities)
เป็นการศึกษาข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ลักษณะของกิจกรรม และรูปแบบพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในโครงการ การตอบสนองของพฤติกรรมต่อกิจกรรมในโครงการ รวมไปถึงช่วงเวลา และความถี่ของการทำกิจกรรมนั้นๆภายในโครงการ
ลักษณะกิจกรรมของผู้ใช้โครงการจะมีความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ใช้โครงการโดยสามารถแยก ได้ดังนี้
1)    ประเภทของกิจกรรม(Types of Activity)
2)    รูปแบบพฤติกรรมของผู้ใช้(User’s Behavioral Patterns)
2.1รูปแบบพฤติกรรมของกลุ่มนักเรียน
2.2รูปแบบพฤติกรรมของกลุ่มบริหาร
2.3รูปแบบพฤติกรรมของกลุ่มวิชาการ
2.4รูปแบบพฤติกรรมของกลุ่มบริการ
2.5รูปแบบพฤติกรรมของกลุ่มผู้ปกครอง
3) พฤติกรรมและสภาพแวดล้อมของกิจกรรม(Behavior and Environment)

1)        ประเภทของกิจกรรม (Types of Activity)
ตารางที่2.1 แสดงการจำแนกประเภทของกิจกรรมที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้
ประเภทของกิจกรรม
ผู้ใช้
จำนวนผู้ใช้
ส่วน/ห้องทีเกิดกิจกรรม
ความถี่กิจกรรม
ลักษณะของกิจกรรม
การเรียนรู้ภายในห้องเรียน
นักเรียน,คุณครู
20
ห้องเรียน,ห้องเรียนภาษา,ห้องเรียนวิทยาศาสตร์,ห้องเรียนคณิตศาสตร์
จันทร์-ศุกร์
ผู้สอนนั่ง /ยืนหน้าห้องบรรยาย นักเรียนจะนั่งอยู่ทางด้านหน้าของ
ผู้สอน เพื่อจดเนื้อหา และแสดงความคิดเห็นต่างๆต่อเนื้อหาการเรียน
การสอน
การเรียนรู้ภายนอกห้องเรียน
นักเรียน,คุณครู
ไม่จำกัด
Gym,สนามกีฬา,สระว่ายน้ำ
,ห้องเรียนศิลปะ,ห้องปฏิบัติการ
วิทยาศาสตร์,ห้องปฏิบัติการ
ดีไซน์และเทคโนโลยี,ห้องปฏิบัติการ
คอมพิวเตอร์,ห้องเรียนดนตรี,ห้องสมุด,Auditorium,Gallery
จันทร์-ศุกร์
นักเรียนออกไปทำการเรียนรู้ภายนอกห้องเรียน ผ่านการปฎิบัติจริง
รับประทานอาหาร
นักเรียน,คุณครู,ผู้บริหาร
498 คน
โรงอาหาร
ทุกวัน
มีร้านอาหารให้นักเรียนเลือกในการรับประทานอาหาร โดยใช้จ่ายผ่านบัตรนักเรียน
อยู่อาศัย
นักเรียน,คุณครู
280 คน
หอพักนักเรียน
ทุกวัน
พักอาศัย

2.รูปแบบพฤติกรรมของผู้ใช้(User’s Behavioral Patterns)
จากการศึกษาถึงรูปแบบพฤติกรรมของการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มผู้ใช้สอยโครงการ นั้นพบว่าลักษณะของรูปแบบพฤติกรรมจะเป็นไปในลักษณะที่คล้ายคลึงกันในแต่ละกลุ่มของผู้ใช้โครงการ ซึ่งสามารถจำแนกรูปแบบพฤติกรรมต่างๆตามลักษณะของกลุ่มผู้ใช้โครงการ ได้ดังนี้
2.1รูปแบบพฤติกรรมของนักเรียน
·    นักเรียนจะเดินทางจากที่พักไม่ว่าจะทางรถยนต์ เดินมาจากหอพักนักเรียน
·นักเรียนบางส่วนจะแยกไปรับประทานอาหาร กินขนมอาหารว่าง เล่นกีฬา เล่นในสนามเด็กเล่น ค้นคว้าหาข้อมูลจากห้องสมุด ห้องดนตรี ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องศิลปะ หรือดำเนินกิจกรรมอื่นๆ
·    เข้าแถวเคารพธงชาติ
·นักเรียนอนุบาลและประถมแยกย้ายเข้าห้องเรียน นักเรียนมัธยมจะเดินไปเรียนยังห้องต่างๆตามตารางสอนที่ได้กำหนดไว้
·    พักกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน พักผ่อน ทำกิจกรรมที่สนใจ
·    นักเรียนแยกย้ายเข้าห้องเรียน ตามตารางสอนที่ได้กำหนดไว้ในช่วงบ่าย
·เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน นักเรียนสามารถอยู่ทำกิจกรรมชมรมที่สนใจหรือจะแยกย้ายกลับบ้านหรือหอพักนักเรียน

2.2รูปแบบพฤติกรรมของกลุ่มบริหาร
·เข้าถึงโรงเรียนด้วยรถยนต์ส่วนตัว
·ผ่านโถงส่วนบริหารเพื่อเข้าไปทำงาน
·เข้าส่วนบริหารโรงเรียนแต่ละฝ่าย ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
·รับประทานอาหารกลางวัน พักผ่อนตามอัธยาศัย
·แยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง บางกรณีอาจมีการประชุม หรือสรุปผลการดำเนินงาน หรือให้คำปรึกษาผู้มาติดต่อ
·เดินทางกลับออกจากโรงเรียน โดยผ่านส่วนโถงส่วนบริหาร
2.3รูปแบบพฤติกรรมของกลุ่มวิชาการ
·    เข้าถึงโรงเรียนด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือมาจากหอพักครู
·    ผ่านโถงสาธารณะ พลาซ่า ซึ่งเป็นส่วนสาธารณะของส่วนการศึกษา
·    เตรียมการสอน
·    สอนหนังสือ
·    พักรับประทานอาหารกลางวัน พักผ่อนตามอัธยาศัย
·    สอนหนังสือ
·    ให้คำปรึกษาแก่นักเรียนผู้ปกครองที่มาขอคำปรึกษา
·    เดินทางกลับไปพักผ่อน
2.4รูปแบบพฤติกรรมของกลุ่มบริการ
·เข้าถึงโรงเรียนด้วยระบบขนส่งมวลชน รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ส่วนตัว
·ลงบันทึกเวลาเข้ามาปฏิบัติหน้าที่
·เข้าสู่โถงส่วนบริการ
·เก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับปฎิบัติหน้าที่
·เข้าปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย ตามแต่หน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้ง
·บางกรณีอาจจะมีการพักผ่อนและรับประทานอาหารกลางวันต่างเวลากันขึ้นอยู่กับแต่ละส่วนรับผิดชอบ
·หลังจากพักกลางวันก็เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายต่อ
·หลังจากการปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อย ลงบันทึกเวลาออกก่อนที่จะออกจากโรงเรียน
·เดินทางออกจากโรงเรียน
2.5รูปแบบพฤติกรรมกลุ่มผู้ปกครอง
จะเป็นไปในรูปแบบของการเข้ามาชมการจัดแสดงของนักเรียน การชมงานนิทรรศการที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น การเข้ามาขอรับคำปรึกษา สอบถามข้อมูล เยี่ยมชมโรงเรียน รับส่งบุตรหลานและการเข้ามาติดต่อธุระโดยมีรายละเอียดดังนี้
·เข้าถึงโรงเรียนด้วยรถยนต์ส่วนตัว
·เข้าสู่โถงส่วนสาธารณะ
·การพักคอย
·รับส่งบุตรหลาน ติดต่อธุระ เยี่ยมชมโรงเรียน หรือเข้าประชุมสมาคมผู้ปกครอง -เมื่อเสร็จธุระแล้วก็จะกลับมาที่โถงพักคอยอีกครั้งหนึ่ง
·เดินทางออกจากโรงเรียน

3.พฤติกรรมและสภาพแวดล้อมของกิจกรรม(Behavior and Environment)
การศึกษาและวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ของพฤติกรรม หรือสภาพแวดล้อมกับกิจกรรมนั้นๆ ว่าต้องการหรือไม่ต้องการพฤติกรรม หรือสภาพแวดล้อมแบบใด เพื่อนำไปกำหนดแนวความคิดในการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้ตอบสนองต่อความต้องการของกิจกรรม

2.1.3 ตารางเวลา (Time Schudule)
ลักษณะของการวิเคราะห์ข้อมูลของโครงการโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้เวลาในแต่ละส่วนต่างๆของภายในโครงการ กับลักษณะของการดำเนินกิจกรรมภายในโครงการ โดยเปรียบเทียบกับเวลาการใช้งานของโครงการต่างๆในกรณีศึกษา
การแสดงตารางเวลาของแต่ละองค์ประกอบโครงการ(Functional Component) จะแสดงให้เห็นถึงทุกส่วน(Zone) สัมพันธ์กับทุกกลุ่มผู้ใช้โครงการตารางเวลาจะมีผลต่อการกำหนดการปิด เปิดโครงการ เป็นข้อกำหนดให้ผู้ออกแบบได้พิจารณาภึงการแยกองค์ประกอบดังกล่าว ให้มีการเข้าออกในช่วงที่ปิดทำการโครงการ นอกจากนี้ยังมีผลต่อการกำหนดระบบเทคโนโลยีอาคาร
โดยลักษณะตารางเวลาที่ทำการวิเคราะห์ความสัมพันธ์มีรายละเอียดดังนี้
·แสดงรายละเอียดเวลาในการดำเนินกิจกรรมต่างๆภายในโครงการแยกตามแต่ละองค์ประกอบของโครงการ ภายในหนึ่งสัปดาห์
·    แสดงรายละเอียดเวลาในการดำเนินกิจกรรมต่างๆภายในโครงการแยกตามแต่ละองค์ประกอบของโครงการภายในหนึ่งวัน
Day
อา.
จ.
อ.
พ.
พฤ.
ศ.
ส.
Func.
ส่วนบริหาร






ส่วนการศึกษา






ส่วนสาธารณะ






หอพัก






ส่วนบริการ






ที่จอดรถ






แผนภูมิที่2.1 แสดงรายละเอียดเวลาในการดำเนินกิจกรรมต่างๆภายในโครงการแยกตามแต่ละองค์ประกอบของโครงการ ภายในหนึ่งสัปดาห์

องค์ประกอบโครงการ
ฟังก์ชั่น
06.00-07.00
07.00-08.00
08.00-09.00
09.00-10.00
10.00-11.00
11.00-12.00
12.00-13.00
13.00-14.00
14.00-15.00
15.00-16.00
16.00-17.00
17.00-18.00
18.00-06.00
ส่วนการศึกษา
ห้องเรียนอนุบาล












ห้องเรียนประถม












ห้องเรียนคลาสต่างๆของมัธยม












ส่วนสนับสนุนการศึกษา
ห้องพยาบาล












Gallery












Auditorium












ห้องปฏิบัติการต่างๆ











ห้องสมุด












ส่วนกีฬา












ห้องชมรม












หอพัก












ส่วนบริหาร
ส่วนต้อนรับ












ส่วนบริหาร











ส่วนสาธารณะ
ร้านเครื่องดื่ม












ส่วนพักคอย












ส่วนบริการ
พนักงานทั่วไป












รปภ.













แผนภูมิที่2.2 แสดงรายละเอียดเวลาในการดำเนินกิจกรรมต่างๆภายในโครงการแยกตามแต่ละองค์ประกอบของโครงการ ภายในหนึ่งวัน
2.2ข้อมูลพื้นฐานทางด้านรูปแบบ (FORM FACT)
ศึกษาข้อมูลทางกายภาพที่เกี่ยวข้องกับที่ตั้ง สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งของโครงการ รวมไปถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของโครงการ ที่เป็นปัจจัยในการออกแบบผลทางสุนทรียภาพ และจิตวิทยาของผู้ใช้
2.2.1ที่ตั้ง(Site) และสภาพแวดล้อม(Environment)
2.2.2จินตภาพ(Image)

2.2.1ที่ตั้ง(Site) และสภาพแวดล้อม (Environment)
ที่ตั้งโครงการส่วนหนึ่งเป็นที่ดินของหมู่บ้าน Prime Villa และส่วนทางด้านหลังซื้อต่อขยายที่ตั้งไปให้ติดกับถนนทางด้านหลังโครงการ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงโครงการ สภาพแวดล้อมที่ตั้งโครงการ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น มีทะเลสาบ

2.2.2จินตภาพ(Image)
การศึกษาข้อมูลของลักษณะภายนอกและภายในที่ปรากฏออกมาในงานสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็นทางด้านรูปทรง สี องค์วัสดุ หรือประกอบอื่นๆที่มองเห็นแล้วก็ให้เกิดจินตภาพที่สอดคล้องกับแนวความคิดของโครงการ โดยโครงการได้ทำการศึกษาทางด้านจินตภาพของโครงการที่สอดคล้องกับลักษณะของโครงที่เป็นสถาบันทางการศึกษา โดยอ้างอิงถึงโครงการประเทศต่างๆที่มีคุณภาพทางด้านจินตภาพโครงการ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโครงการ อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีหัวข้อรายละเอียดในการพิจารณา ดังนี้
1) จินตภาพภายนอก(External Image)
2) จินตภาพภายใน(Internal Image)

1)    จินตภาพภายนอก(External Image)
ศึกษาภาพรวมที่ปรากฏอยู่ภายนอกของงานสถาปัตยกรรมของอาคารที่เป็นกรณีศึกษา เพื่อให้ทราบถึงหลักเกณฑ์ แนวความคิด วิธีการจัดการ และวิธีการออกแบบให้ได้ตามแนวความคิดที่วางไว้ โดยมีรายละเอียดย่อยในการพิจารณาดังนี้


1.1รูปร่างและรูปทรง(Configulation and Image)
รูปภาพที่2.2 แสดงจินตภาพภายนอกด้านรูปร่างและรูปทรง
ที่มา www.archdaily.com (Adani Vidyamandir / Apurva Amin Architects)

1.2ลักษณะ(Characteristic)
รูปภาพที่2.3 แสดงจินตภาพภายนอกด้านลักษณะ
ที่มา www.archdaily.com (New Cervelló School)

สถาปัตยกรรมที่ตอบรับกับฟังก์ชั่น และสภาพแวดล้อมของที่ตั้ง โดยมีฟินเพื่อใช้ในการบังแดด ใช้สีสันสดใสเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของเด็กเล็ก และสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นเพื่อตอบรับกับเด็กโต

1.3รูปแบบ(Style)
รูปภาพที่2.4 แสดงจินตภาพภายนอกด้านรูปแบบ
ที่มา www.archdaily.com (Duoc Maipu / Sabbagh Arquitectos)

เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์น ที่ใช้เหล็กมาใช้ในงานโครงสร้าง แต่อาจจะเพิ่มสีสันเข้าไปในงานเพื่อให้งานดูน่าสนใจ

1.4สัดส่วน(Proportion) จังหวะ(Rhythm) และลำดับ(Hierarchy)
รูปภาพที่2.5 แสดงจินตภาพภายนอกด้านสัดส่วน
ที่มา http://ptis.threegeneration.org/ (PTIS -Chiang Mai)

โครงการที่มีสัดส่วนของอาคารเป็นอาคารขนาดเล็กกระจายตัวกันเป็นกลุ่มของอาคาร ทำให้ไม่รู้สึกว่าเป็นอาคารขนาดใหญ่จนเกินไป
1.5มุมมองของการเข้าถึง(Approach)
รูปภาพที่2.6 แสดงจินตภาพภายนอกด้านมุมมองการเข้าถึง
ที่มา www.archdaily.com (Community-Oriented Architecture in Schools)
1.6สภาพแวดล้อมโครงการ(Landscape)
รูปที่2.7 แสดงจินตภาพภายนอกด้านสภาพแวดล้อมโครงการ
ที่มา Woodward Academy Middle School

โครงการที่มีสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น โดยให้ธรรมชาติโอบล้อมอาคารเรียน

2) จินตภาพภายใน(Internal Image)
2.1ลักษณะและคุณภาพของพื้นที่ว่าง(Character and Quality of Space)
Volksschule Wallenmahd / Dietrich Untertrifaller Staheli Architekten © Bruno Klomfar
รูปภาพที่2.8 แสดงจินตภาพภายในด้านลักษณะและคุณภาพของพื้นที่ว่าง
ที่มา www.archdaily.com (Volksschule Wallenmahd)

พื้นที่ว่างไม่ขนาดไม่ใหญ่เกินไปโดยปรับขนาดเสกลให้เข้ากับขนาดร่างกายของเด็กๆ และมีสีสันสดใส

2.2จังหวะ(Rhythm) และลำดับของพื้นที่ว่าง(Order /Hierarchy of Space)
จังหวะค่อนข้างราบเรียบ สม่ำเสมอ ไม่มีการตัดกันอย่างรุนแรงของจังหวะ พื้นที่ว่างให้ความรู้สึกโอบล้อมเป็นกันเอง และดูเข้าใจง่าย
2.3แสงในโครงการ(Lighting)
รูปภาพที่2.9 แสดงจินตภาพภายในด้านแสงภายในโครงการ
ที่มา Volksschule Wallenmahd
เน้นแสงธรรมชาติ มีช่องเปิดที่มาก แต่ก็มีฟินมาบังแดด เพื่อกันความร้อนเข้ามาในอาคารมากเกินไป

2.3ข้อมูลพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์(ECONOMIC FACTS)
การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนของโครงการ และระดับคุณภาพของอาคาร เพื่อนำข้อเท็จจริงมาเพื่อกำหนดคุณภาพ และงบประมาณการลงทุน เพื่อกำหนดงบประมาณเบื้องต้น โดยสามารถวิเคราะห์จากกรณีศึกษา เนื่องจากโครงการเป็นโครงการภาคเอกชนจึงต้องมีการพิจารณาเรื่องการลงทุนเป็นพิเศษ แบ่งหลักเกณฑ์ออกเป็น 3หัวข้อ
2.3.1การลงทุนของโครงการ(Total Project Investment)
2.3.2การตลาด
2.3.3การคืนทุน

2.3.1การลงทุนของโครงการ(Total Project Investment)
จากการศึกษาและการวิเคราะห์จะพบว่าโครงการเพื่อการศึกษาเป็นโครงการที่มีต้นทุนสูงในด้านอุปกรณ์การเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในหัวข้อนี้สามารถแบ่งหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อความละเอียด และชัดเจนยิ่งขึ้นได้ดังนี้
1) ขอบเขตการลงทุน
2) แหล่งที่มาของเงินทุน
3) งบประมาณการลงทุน
4) ค่าก่อสร้าง
5) ค่าใช้จ่าย

1)    ขอบเขตการลงทุน
เป็นโครงการของภาคเอกชน ซึ่งมีการลงทุนสูงเนื่องจากต้นทุนของบุคคล
2)    แหล่งที่มาเงินทุน สามารถแบ่งที่มาได้ ดั้งนี้
·    ธนาคาร
·    เอกชน
โครงสร้างของทุนทรัพย์อาศัยเงื่อนไขของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในการส่งเสริมธุรกิจการศึกษา อัตราส่วนระหว่างเงินกู้ต่อเงินที่ชำระแล้ว ดังนี้

ตารางที่2.2 แสดงอัตราส่วนระหว่างเงินกู้ต่อเงินที่ชำระแล้ว
CAPITAL STRUCTURE
TOTAL (%)
เงินกู้ระยะยาว
60
เงินทุนจดทะเบียน
40
รวม
100

3)    งบประมาณการลงทุน
ในส่วนของงบประมาณการาลงทุนมีการแบ่งเป็นหัวข้องบประมาณการก่อสร้างเป็นรายละเอียดดังนี้
งบประมาณทั้งหมด
ค่าที่ดินโครงการและพัฒนาที่ดิน                                                                                                                             คิดเป็น 5% ของราคาที่ดิน
ค่าก่อสร้าง
·    ค่าก่อสร้างภายนอกและงานภายนอก                                                             คิดเป็น 2% ของค่าก่อสร้าง
·    ค่าจัดสวนคิดเป็นตารางเมตรละประมาณ                                           10,000บาท ต่อตารางเมตร
·    ค่าตกแต่งภายใน                                                                                                                                                                          คิดเป็น 30% ของค่าก่อสร้าง
·    ค่าระบบสาธารณูปโภค-สาธารณูปการ                                                           คิดเป็น 7.5% ของค่าก่อสร้าง
·    ค่าธรรมเนียมการออกแบบ และควบคุมงาน                            คิดเป็น 15% ของค่าก่อสร้าง
·    ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการเป็นเงินหมุนเวียน           คิดเป็น 1% ของค่าก่อสร้าง

4) ค่าก่อสร้าง
·    ราคาค่าก่อสร้าง ( Building cost ) ตารางเมตรละ 20,000 บาท
พื้นที่ใช้สอยอาคารโดยประมาณ 29,600 ตารางเมตร
ราคาค่าก่อสร้าง                                                                                                                      20,000 x 29,600 = 592,000,000 บาท

5) ค่าใช้จ่าย
จากการศึกษากรณีศึกษาจะพบว่าค่าใช้จ่ายของโครงการสามารถแบ่งค่าใช้จ่ายได้เป็น
5.1ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการ
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้พบว่าสามารถเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของการก่อสร้างโครงการทั้งหมด ในช่วงเวลานี้ โครงการยังไม่มีรายรับเพราะโครงการประเภทนี้จะเริ่มมีรายรับหลังจากที่เปิดดำเนินการแล้ว
5.2ค่าใช้จ่ายหลังเปิดดำเนินการ
ค่าใช้จ่ายในส่วนของหลังการเปิดทำการโครงการ สามารถแบ่งออกได้เป็น
1) รายรับ ประกอบด้วย
·     ค่าเทอมของการศึกษา
·     ร้านค้าอุปกรณ์และเครื่องแบบทางการศึกษา
2) รายจ่าย ประกอบด้วย
·ค่าใช้จ่ายในด้านบริหาร ได้แก่ เงินเดือนพนักงาน เงินเดือนครู เงินเดือนผู้บริหาร และค่าใช้จ่ายรายเดือนด้านสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
·     ค่าบำรุงรักษาเครื่องมือ อุปกรณ์ บำรุงรักษาสถานที่และค่าประกันต่างๆ
2.3.2 การตลาด
ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง และมีแนวโน้มที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นโครงการจึงมีจุดเด่นที่เป็นตัวสถาปัตยกรรมที่ดูโดดเด่นและน่าสนใจ
2.3.3การคืนทุน (Return on Investment)
งบประมาณการลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 718,725,000 บาท
ค่าเทอมนักเรียนอนุบาล เทอมละ 200,000 บาท
ค่าเทอมนักเรียนไฮสคูล เทอมละ 400,000 บาท
รายได้จากค่าเทอมแต่ละปี ปีละ 408,000,000 บาท
ดังนั้นระยะเวลาที่โครงการนี้สามารถคืนทุนได้ ประมาณ 2 ปี

2.4 ข้อมูลพื้นฐานด้านเทคโนโลยี (TECHNOLOGY FACTS)
ศึกษาข้อมูลต่าง ๆที่เป็นพื้นฐานระบบเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาคาร เพื่อทราบถึงงานระบบของโครงการและสามานำมาเลือกใช้วิเคราะห์และกำหนดแนวความคิดได้อย่างถูกต้อง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
2.4.1ระบบประกอบอาคาร (Building System)
2.4.2เทคโนโลยีพิเศษ(Specific Technology)
2.4.3เทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับการศึกษา (Education Technology)

2.4.1 ระบบประกอบอาคาร(Building System)
ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับงานระบบอาคารงานระบบภายในอาคาร การกำหนดชนิดประเภท ความสามารถในการทำงาน ตลอดจนประสิทธิภาพต่างๆ และระบบอื่นๆที่มีความจำเป็นต่อโครงการ โดยระบบภายในอาคารทั่วไปของโครงการ มีดังนี้
1)        ระบบโครงสร้าง(Structure)
2)        ระบบปรับอากาศ(Air-Conditioning)
3)        ระบบสุขาภิบาล(Sanitary)
·    ระบบประปา
·    ระบบน้ำเสีย
·    ระบบโสโครก
·    ระบบบำบัดน้ำเสีย
4)        ระบบไฟฟ้ากำลัง(Electricity)
5)        ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน(Emergency System)
6)        ระบบป้องกันฟ้าผ่า(Lighting Protection System)
7)        ระบบสื่อสารโทรคมนาคม(communication)
·    ระบบโทรศัพท์(Telephone System)
·    ระบบโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV System)
8)       ระบบป้องกันอัคคีภัยและระบบดับเพลิง(Fire Protection Extinguishers)
9)        ระบบแสงสว่าง(Lighting)
10)  ระบบกำจัดขยะ

2.4.2เทคโนโลยีพิเศษ(Specific Technology)
ระบบเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยดังนี้
1)    ระบบรักษาความปลอดภัย
ระบบรักษาความปลอดภัย (Security Management)ทำหน้าที่ตรวจตรา และตรวจสอบ การเข้า-ออกอาคารของบุคคลประเภทต่างๆ โดยใช้อุปกรณ์ ตั้งแต่ ระบบควบคุมทางเข้า-ออก (Access Control),อุปกรณ์ตรวจสอบความร้อน ,กล้องวงจรปิด ,ระบบตรวจสอบการเคลื่อนไหว ฯลฯ โดยจะต่อสัญญาณเข้ากับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยส่วนกลาง ซึ่งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์
2)    ระบบป้องกันเพลิงไหม้
จัดอุปกรณ์ ตรวจจับควันไฟ สัญญาณเตือนภัย และอุปกรณ์ดับเพลิงไว้ตามจุดต่างๆของอาคารเรียน ตามกฏหมายอาคาร และจัดให้มีจุดรวมพลไว้เผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน

2.4.3-เทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับการศึกษา (Education Technology)
เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตไร้สาย ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญ ในเรื่องของการศึกษาค้นคว้าของเด็กนักเรียว อีกทั้งยังสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูลในอินเตอร์เน็ต โดยรูปแบบของการเชื่อต่ออินเตอร์เน็ต จะเป็นแบบ Client/server (Infrastructure mode)
 ระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Client / server หรือ Infrastructure mode เป็นลักษณะการรับส่งข้อมูลโดยอาศัยAccess Point (AP) หรือเรียกว่า “Hot spot” ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างระบบเครือข่ายแบบใช้สายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย (client) โดยจะกระจายสัญญาณคลื่นวิทยุเพื่อ รับ-ส่งข้อมูลเป็นรัศมีโดยรอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรัศมีของ AP จะกลายเป็น เครือข่ายกลุ่มเดียวกันทันที โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ จะสามารถติดต่อกัน หรือติดต่อกับ Server เพื่อแลกเปลี่ยนและค้นหาข้อมูลได้ โดยต้องติดต่อผ่านAP เท่านั้น ซึ่ง AP 1 จุด สามารถให้บริการเครื่องลูกข่ายได้ถึง 15-50อุปกรณ์ ของเครื่องลูกข่าย เหมาะสำหรับการนำไปขยายเครือข่ายหรือใช้ร่วมกับระบบเครือข่ายแบบใช้สายเดิมในออฟฟิต,ห้องสมุด หรือในห้องประชุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น 
รูปภาพที่2.10 แสดงการทำงานอินเตอร์เน็ตไร้สายแบบ Client / server
ที่มา สำนักเทคโนโลนีสารสนเทศ กรมที่ดิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น